สุนันท์ ศรีจันทรา แม้สถานการณ์สงครามในยูเครนจะดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แม้นักลงทุนต่างประเทศจะถล่มขายหุ้นอย่างหนัก แต่นักลงทุนรายย่อยกลับไม่หวั่นไหว ปักหลักซื้อหุ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่และเป็นผู้ซื้อรายเดียวสำหรับวิกฤตใหญ่ตลาดหุ้นที่กำลังเกิดขึ้น การปรับตัวลงอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นไม่ได้ทำให้นักลงทุนรายย่อยตื่นตระหนัก แต่กลับถูกมองเป็นโอกาสในการช้อนซื้อหุ้นราคาต้นทุนต่ำ ซึ่งหากดัชนีหุ้นดิ่งลงต่อไป รอบนี้นักลงทุนรายย่อยจะเป็นกลุ่มที่เจ็บหนัก ดัชนีหุ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปี 2565 โดยปิดที่ 1,626.70 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ โดยไม่อาจประเมินว่า การปรับฐานรอบนี้จะกินเวลายาวนานขนาดไหน และดัชนีหุ้นจะดิ่งลงไปลึกสุดในระดับใด สงครามในยูเครนไม่มีสัญญาณจะยุติลงภายในระยะเวลาอันสั้น โดยทั่วโลกยังหวั่นไหวสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกรุนแรงมากขึ้น นักลงทุนจึงพากันเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง จนตลาดหุ้นทั้งโลกแดงฉาน ตลาดหุ้นไทยถูกถล่มหนักจากนักลงทุนต่างชาติ กองทุน และพอร์ตโบรกเกอร์ จนดัชนีทรุดลง 70 จุดในช่วง 2 วันทำการ แต่นักลงทุนรายย่อยกลับสวนควันปืน เข้าไปช้อนเก็บหุ้น แทนที่จะชะลอการซื้อขายชั่วคราว นักลงทุนต่างชาติแม้ซื้อหุ้นมาตลอดนับจากต้นปี โดยมียอดซื้อหุ้นสะสมสุทธิเมื่อสิ้นวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาจำนวน 81,162.29 ล้านบาท แต่เริ่มหันมาเทขายอย่างหนัก เพราะกังวลในผลกระทบสงครามยูเครน นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนในประเทศซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่ประคับประคองตลาดหุ้น แต่กลับขายหุ้นออกมาไม่ยั้ง โดยมียอดขายหุ้นสะสมสุทธิจำนวน 75,337.31 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยซึ่งควรเป็นกลุ่มที่ขายหุ้นออกมากที่สุด แต่กลับขายหุ้นออกเพียง 10,019.06 ล้านบาท โดยไม่ได้ชิงจังหวะขายทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น
Read More